ทุกวันนี้มีปัญหาทั้งเรื่องมลพิษ ฝุ่นควัน เชื้อไวรัส เชื้อโรคต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ลำพังแค่แค่หน้ากากอนามัยและการระมัดระวังตัวเองยังไม่พอ จำเป็นต้องมีตัวช่วยหรือไอเทมประจำกาย เพิ่มความสบายใจว่าเราได้รับอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างกาย หนึ่งในไอเทมที่น่าสนใจคงจะหนีไม่พ้นเครื่องฟอกอากาศแบบพกพา เพราะใช้งานง่าย พกพาไปไหนก็สะดวก ใครอยากเพิ่มความมั่นใจต้องจัด แต่ไม่รู้จะเลือกซื้อยังไง? ซื้อแบบไหนถึงจะปลอดภัย? ในวันนี้เราจะพาไปหาคำตอบ
วิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศแบบพกพายังไง? ให้ปลอดภัยใช้งานได้จริง
ต้องคำนึงถึงปัจจัย ดังต่อไปนี้
1. มีประจุเพียงพอ
การกำจัดเชื้อโรค แบคทีเรีย หรือมลพิษต่าง ๆ ในอากาศด้วยเครื่องฟอกอากาศ ต้องอาศัยกระบวนการสร้างประจุเพื่อกำจัดอนุภาคต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น PM 2.5 สารปนเปื้อนที่มีผลเสียต่อร่างกาย เช่น สารฟอร์มัลดีไฮด์ ฝุ่นควันจากท่อไอเสีย หรือสารก่อภูมิแพ้ โดยจำนวนประจุจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการป้องกัน หากต้องการเครื่องที่มีประสิทธิภาพ ขอแนะนำว่าควรปล่อยประจุไอออนลบตั้งแต่ 2 ล้านประจุต่อตารางเซนติเมตร ขึ้นไป
2. ระยะเวลาการใช้งาน
ต้องมั่นใจว่าการชาร์จ 1 ครั้ง สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ไม่ต่ำกว่า 10 – 20 ชั่วโมง ลองคิดดูนะว่าการใช้ชีวิตประจำวันของเราอาจเดินทางไปทำงาน เดินทางท่องเที่ยว หรือเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ต้องใช้เวลาเยอะมาก บางครั้งไม่ต่ำกว่า 5 – 6 ชั่วโมง ดังนั้นเครื่องฟอกอากาศจำเป็นต้องมีประสิทธิภาพการทำงานยาวนาน ไม่ใช่เพิ่มความเสี่ยง
3. น้ำหนัก
เครื่องฟอกอากาศแบบพกพามีน้ำหนักแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแบรนด์ หากจะให้ดีไม่ควรมีน้ำหนักเกิน 50 กรัม เวลาพกพาจะได้ไม่รู้สึกเมื่อยล้าหรือปวดคอ
4. รูปแบบการใช้งาน
สำหรับบางคนอาจไม่ได้ต้องการคล้องเครื่องฟอกอากาศทุกที่ทุกเวลาขนาดนั้น เพราะบางครั้งอาจต้องนั่งโต๊ะ เช่น รับประทานอาหารหรือนั่งทำงาน ซึ่งตัวเจ้าเครื่องฟอกอากาศนี้ก็จำเป็นต้องใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ คือ คล้องคอก็ได้ วางบนโต๊ะก็ได้
5. มั่นใจว่าไม่ใช้วัสดุที่ก่อให้เกิดอันตราย
แน่นอนว่ามีการใช้วัสดุหลากหลาย แต่ไม่ว่าจะใช้ประเภทไหนก็ตาม ควรปราศจากสารพิษที่มีผลต่อร่างกาย เช่น ซิลิโคนไร้สารพิษ จะได้มั่นใจว่าไม่ทำลายสุขภาพหากใช้ไปนาน ๆ
วิธีการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศแบบพกพานั้นง่ายแสนง่าย เพราะในส่วนของความปลอดภัยต้องใส่ใจทั้งเรื่องวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต และปริมาณไอออนที่ใช้ในการกำจัดมลพิษหรือสารพิษต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถกำจัดได้จริง หรือป้องกันทั้งสารก่อภูมิแพ้ ควันรถ ควันบุหรี่ ฝุ่นละออง PM 2.5 สารอันตรายอย่างฟอร์มัลดีไฮด์ ยิ่งเป็นแบบคล้องคอหรือตั้งไว้บนโต๊ะทำงานยิ่งต้องใส่ใจ